เวลาพูดถึง นัก พัฒนา ซอฟต์แวร์ หลายคนจะนึกถึงคนใส่หูฟัง นั่งพิมพ์โค้ดทั้งวัน ดูไกลตัวและเข้าใจยาก แต่จริง ๆ แล้วคนกลุ่มนี้คือ “ช่าง” ด้านดิจิทัลที่ช่วยเปลี่ยนงานงง ๆ ซ้ำ ๆ ให้กลายเป็นระบบที่กดไม่กี่ปุ่มก็เสร็จ ทั้งเรื่องเช็คสต๊อก ออเดอร์ ลูกค้า จองคิว หรือรายงานยอดขาย ถ้าไม่มี ผู้ พัฒนา ซอฟต์แวร์ ระบบหลังบ้านต่าง ๆ ที่เราใช้ทุกวันก็จะไม่เกิดขึ้นเลย บทความนี้จะเล่าแบบสบาย ๆ ว่าแต่ละบทบาทเขาทำอะไร ต่างกันยังไงระหว่าง นัก พัฒนา ระบบ กับ system developer และถ้าธุรกิจอยากเริ่มใช้ระบบจริงจัง เราควรเตรียมตัวยังไงเวลาไปคุยกับทีมพัฒนา

นัก พัฒนา ซอฟต์แวร์ ทำอะไรบ้าง

หน้าที่หลักของ นัก พัฒนา ซอฟต์แวร์ คือรับไอเดียหรือปัญหาจากเจ้าของธุรกิจ แล้วแปลงให้กลายเป็นโปรแกรมหรือแอปที่กดใช้งานได้จริง เช่น เจ้าของร้านบอกว่า “ตอนนี้เช็คยอดสต๊อกด้วยกระดาษ เรื่องมากและผิดบ่อย อยากมีระบบเช็คสต๊อกในมือถือ” หน้าที่ของ ผู้ พัฒนา ซอฟต์แวร์ ก็คือออกแบบหน้าจอ คิดขั้นตอน แล้วเขียนโค้ดให้ระบบทำงานตามนั้น ในแต่ละวันพวกเขาไม่ได้แค่พิมพ์โค้ด แต่ต้องคุยกับคนใช้งานจริง ทดสอบ แก้บั๊ก และปรับระบบให้เร็วขึ้น ใช้ง่ายขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น นึกภาพเหมือนช่างต่อเลโก้ ที่ต้องต่อให้ตรงแบบ แข็งแรง และต่อเพิ่มได้ในอนาคต เพียงแต่เลโก้ของ นัก พัฒนา ซอฟต์แวร์ คือโค้ดและข้อมูลของธุรกิจนั่นเอง

ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ vs นักพัฒนาระบบ ต่างกันยังไงให้เข้าใจง่าย

หลายคนสับสนระหว่างคำว่า ผู้ พัฒนา ซอฟต์แวร์, นัก พัฒนา ซอฟต์แวร์, นัก พัฒนา ระบบ และ system developer เอาแบบง่าย ๆ เลยคือ ทั้งหมดอยู่ในโลกเดียวกัน แต่โฟกัสคนละมุม ถ้าเปรียบเป็นการสร้างบ้าน “ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์” เปรียบเหมือนช่างที่ลงมือก่ออิฐ ฉาบปูน ติดประตูหน้าต่าง คือทำฟีเจอร์แต่ละส่วนให้ใช้งานได้ ส่วน นัก พัฒนา ระบบ หรือ system developer จะเหมือนวิศวกรที่ดูแบบบ้านทั้งหลัง วางโครงสร้าง คิดเรื่องเสา คาน ระบบไฟ ระบบน้ำ ให้ทุกอย่างเชื่อมกันอย่างปลอดภัยและขยายต่อได้ในอนาคต ในโปรเจกต์จริง ๆ มักจะต้องใช้ทั้งสองแบบทำงานร่วมกัน บางคนเก่งทั้งเขียนโค้ดและออกแบบระบบ บางคนเก่งด้านใดด้านหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องเข้าใจโจทย์ของธุรกิจและทำให้ระบบตอบโจทย์คนใช้งานจริงให้ได้

ตัวอย่างง่าย ๆ ของงานที่ต้องใช้ นักพัฒนา ระบบ และ system developer

ลองนึกภาพธุรกิจที่เริ่มจากขายของออนไลน์เล็ก ๆ แล้วโตขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกอาจใช้แค่ Excel กับไลน์ แต่พอออเดอร์เยอะขึ้น ขายหลายช่องทาง สต๊อกเริ่มมั่ว คนส่งของเริ่มงงว่าออเดอร์ไหนจัดแล้วหรือยัง ตรงนี้แหละที่ต้องมี นัก พัฒนา ระบบ หรือ system developer เข้ามาช่วยออกแบบตั้งแต่ต้นว่า “ระบบที่ดีควรเดินงานยังไง” เช่น ลูกค้าสั่ง → ระบบสร้างออเดอร์ → ตัดสต๊อก → แจ้งทีมแพ็กของ → ออกใบส่งของ → เก็บข้อมูลลูกค้าไว้ใช้งานต่อในอนาคต จากนั้น นัก พัฒนา ซอฟต์แวร์ ก็จะลงมือสร้างเว็บหรือแอปตามแบบนี้ หรือในกรณีโรงแรม คลินิก โรงงาน หรือองค์กรใหญ่ ก็ต้องการ ผู้ พัฒนา ซอฟต์แวร์ ที่เข้าใจทั้งกฎหมาย ภาษี ขั้นตอนการทำงาน และเอามาออกแบบระบบให้เข้ากับหน้างานจริง ไม่ใช่ระบบสวย แต่ใช้จริงแล้วปวดหัว

ถ้าธุรกิจอยากจ้างนักพัฒนา ควรเตรียมตัวคุยกับทีม dev ยังไงดี

เจ้าของธุรกิจจำนวนมากรู้สึกว่าโลกของ นัก พัฒนา ซอฟต์แวร์ ดูไกลตัว พูดกันคนละภาษา จริง ๆ แล้วเริ่มต้นง่ายกว่านั้นเยอะ สิ่งแรกที่ควรเตรียมคือ “ปัญหาในชีวิตจริง” ของธุรกิจ เช่น งานอะไรที่เสียเวลามาก งานไหนที่คนชอบพลาด งานอะไรที่ถ้าเปลี่ยนเป็นระบบแล้วจะช่วยได้เยอะ ให้เขียนออกมาเป็นข้อ ๆ ไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์เทคนิค จากนั้นเวลาคุยกับ ผู้ พัฒนา ซอฟต์แวร์, นัก พัฒนา ระบบ หรือ system developer ก็เล่าให้ฟังตรง ๆ ว่า ตอนนี้ทำงานยังไง ใช้เอกสารอะไร ใช้กี่คน และอยากให้ภาพอนาคตเป็นแบบไหน ยิ่งเล่าด้วยตัวอย่างจริง เช่น เอกสารตัวอย่าง รูปถ่ายหน้าจอ แชตที่ใช้กันในทีม ยิ่งช่วยให้ทีม dev เข้าใจเร็วขึ้น ที่เหลือคือให้เขาช่วยแปลงสิ่งเหล่านี้ให้เป็นระบบ ส่วนเราก็ช่วยรีวิวต้นแบบ (prototype) และให้คำติชมระหว่างทาง จะได้ไม่ต้องมารื้อทีหลังให้เสียทั้งเวลาและงบประมาณ

มองหา ทีมผู้พัฒนา ซอฟต์แวร์ในไทย ที่คุยง่าย ทำงานได้จริง? Digicat tech ช่วยคุณได้

ถ้าคุณกำลังมองหา นัก พัฒนา ซอฟต์แวร์, อยากทำงานกับ ผู้ พัฒนา ซอฟต์แวร์ ที่เข้าใจธุรกิจไทย และอยากได้ทีม นัก พัฒนา ระบบ หรือ system developer ที่ช่วยคิดระบบให้ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่แค่รับโค้ดตามสั่ง การมีพาร์ตเนอร์ที่คุยกันรู้เรื่องคือเรื่องสำคัญ ที่ Digicat tech เราคือผู้ พัฒนา ซอฟต์แวร์ในไทย ที่รับเขียนโปรแกรมและแอปพลิเคชัน ทั้งเว็บไซต์ เว็บแอป และแอปบนมือถือ เราช่วยคุณตั้งแต่เก็บ requirement ดู workflow จริงของทีม ออกแบบหน้าจอให้ง่ายต่อการใช้งาน ไปจนถึงการพัฒนา ทดสอบ และดูแลหลังระบบออนไลน์แล้ว เป้าหมายของเราคือทำให้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณทำงานง่ายขึ้น โตได้เร็วขึ้น และไม่ต้องปวดหัวกับระบบที่ซับซ้อนเกินจำเป็น หากมีไอเดียหรืองานเดิมที่อยากยกระดับเป็นระบบที่ดีขึ้น ลองเอามาคุยกับทีมเราได้เลยครับ